ยังทำไม่ได้ค่ะ ควรรอให้แผลแห้งสนิทก่อนแล้วค่อยทำ
ยังทำแบบใช้กาแฟไม่ได้ค่ะ ควรรอหลังจาก หยุดทำคีโมหรือ หยุดกินยามุ่งเป้าไปแล้ว 2 สัปดาห์ - 1 เดือน
*และควรเข้ามาเรียนในคอร์สออนไลน์ก่อนนะคะ คุณจะได้เรียนรู้และเข้าใจการทำดีทอกซ์ที่ถูกต้อง และวิตามินที่ต้องใช้ร่วมกับการดีทอกซ์ และการรับมือ จัดการกับอาการถอนพิษต่างๆค่ะ
ใช้สมุนไพร LIVER DETOX, ทำดีท็อกซ์แบบซีฟรัช (C-Flush), วีทกราส (Wheat Grass) และอีกหลายๆวิธี ซึ่งสามารถดูได้จากในบทเรียนเรื่องการทำดีท็อกซ์ค่ะ
สนใจเข้าคอร์สเรียนสามารถติดต่อได้ที่ LINE @coachnatalie ค่ะ
ทำได้ค่ะ
ได้ค่ะ
คนเป็นมะเร็งส่วนใหญ่มักมีสารพิษตกค้างในร่างกายมาก การทำดีท็อกซ์กาแฟแตกต่างจากการถ่ายปกติตรงที่ว่า การทำดีท็อกซ์ เมื่อเราใส่กาแฟเข้าไปในท้องกาแฟจะมีสารPalmitic Acid ที่ไปช่วยดึงสารพิษออกจากตับ และช่วยกระตุ้นตับในการสร้างกลูต้าไธโอน (เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ) เพื่อการดีท็อกซ์ล้างสารพิษออก
ในขณะที่การถ่ายอุจจาระตามปกติ ร่างกายจะไม่สามารถขับสารพิษเก่าตกค้าง รวมทั้งพยาธิและปรสิต ที่ทำให้เราป่วยออกมาได้ไวและมากเท่ากับการทำดีท็อกซ์กาแฟค่ะ
ขึ้นอยู่ที่ปริมาณที่ใช้และความถี่ของแต่ละคนในการทำด้วยค่ะ บางคนใช้สูตร 3 ใช้แค่ 2 ช้อน ก็ใช้ได้ประมาณ 2-3 เดือน แต่ทั่วไปใช้ทีละ 3 ช้อน ก็น่าจะหมดไวกว่านั้นค่ะ ประมาณ 1-2 เดือนก็หมดค่ะ หรือบางคนทำบ่อย ถี่ เดือนนึงก็หมดค่ะ
แบบผง: จะบริสุทธิ์กว่า ถ้าคุณเซนซิทีฟต่อการใช้วิตามินซี เช่น ทานวิตามินซีแล้วปวดท้อง แนะนำให้ทานแบบผงค่ะ และแบบผงใช้สำหรับการทำดีท็อกซ์แบบ C-Flush ค่ะ
แบบเม็ด: สะดวก ทานง่ายกว่าผง และของเราเป็นแบบ Liposomal ดูดซึมได้ดีค่ะ
L-Lysine, และการทำโอโซนก็ช่วยได้ค่ะ
Coq10, วิตามินบีรวม, L-lysine, STAMETS 7, Liver DTX ค่ะ
เควอซิติน, วิตามินซี, เบต้ากลูแคนค่ะ
รับคีโมอยู่ดูคลิปนี้ค่ะ https://www.facebook.com/StopCancerWithNatalie/videos/313043380346520/
CoQ10, วิตามินบี12, แมกนีเซียม ค่ะ
เบต้ากลูแคน, Astragalus (อึ่งคี้)
วิตามินอาหารเสริมทุกตัวในช็อป ปลอดภัยและมีคุณภาพ สามารถทานได้ทั้งคนเป็นมะเร็งและคนไม่เป็นมะเร็งค่ะ
โค้ชนาตาลีเป็นโค้ชสุขภาพทางเลือก โค้ชไม่สามารถแนะนำยาหรือจ่ายยาได้ค่ะ มีแต่การใช้อาหาร, วิตามิน และสมุนไพรในการบำบัดเท่านั้นค่ะ
วิตามินบี12, วิตามินบีรวม, สไปรูลิน่า-คลอเรลล่า, อัลฟัลฟ่า, Astragalus และทานผักใบเขียวให้มากขึ้น
ดินเคลย์, คลอเรลล่า-สไปรูลิน่า
ทานได้ และควรทารค่ะ
เพื่อเป็นการเตรียมและป้องกันไม่ให้ร่างกายทรุดมาก
ทานได้ค่ะ ไม่ได้มีผลอะไร
A:
บางตัวสามารถทานต่อเนื่องได้อย่างปลอดภัยค่ะ
แต่บางตัวควรพัก 1 เดือน หลังทาน 3 เดือน
แนะนำให้อ่านวิธีใช้ให้ถี่ถ้วนก่อนการทาน หรือปรึกษาโค้ชค่ะ
ทานได้ทุกวันอย่างปลอดภัยค่ะ
แต่ควรดื่มน้ำผักสกัดเย็นเป็นหลักค่ะ
ทาน 6 เดือน แล้วสังเกตร่างกายค่ะ ว่าดีขึ้นมั้ย ถ้าได้ผลดีให้ทานต่อ ถ้าไม่ดีขึ้นให้หยุดทานค่ะ
เริ่มต้นที่ 10 มก. สังเกตอาการของคุณว่ามีอาการอย่างไรบ้าง และค่อยๆเพิ่มขึ้นทีละ 10 มก. ได้สูงสุดถึง 60 มก.
ควรทานก่อนนอน 30 นาที - 1 ชั่วโมง
หลังทานควรงดใช้อุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด ปิดไฟและทำห้องให้มืดสนิท เพราะ ระดับเมลาโทนิน อาจลดลงได้ เมื่อมีแสงสว่าง ทำให้การนอนหลับไม่ได้คุณภาพเท่าที่ควร
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนนะคะ เมลาโทนิน เป็นฮอร์โมนนอนหลับ ไม่ใช่ 'ยานอนหลับ' ซึ่งต่างกันค่ะ
ปัจจัยที่ทำให้กินเมลาโทนินแล้วไม่ได้ผลมีดังนี้ค่ะ
- มีความเครียดและกังวลอยู่แล้วก่อนนอน แนะนำให้ฝึกสมาธิและปล่อยวางค่ะ
- ไม่ปิดไฟ ใช้แสงสว่าง, เล่นมือถือ, ใช้อุปกรณ์สื่อสารและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ต่างๆ เพราะ แสงมีความสัมพันธ์กับระดับของเมลาโทนินในร่างกายค่ะ แสงสว่างมีผลทำให้ระดับเมลาโทนินลดลง เหมือนกับปฏิกิริยาตามธรรมชาติของร่างกายมนุษย์ เราจะตื่นเมื่อแสงอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า และเวลากลางคืน เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ฮอร์โมนเมลาโทนินในร่างกายจะเริ่มหลั่งทำให้เราเริ่มง่วงในเวลากลางคืนค่ะ
- อายุมากขึ้น ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินได้ลดลง ทำให้หลับยากขึ้น จึงอาจต้องมีการเสริมเมลาโทนินเพิ่ม